Reading Skill
Teaching Reading
Traditionally, the purpose of learning to read in a language has been to have
access to the literature written in that language. In language instruction,
reading materials have traditionally been chosen from literary texts that
represent "higher" forms of culture.
This approach assumes that students learn to read a language by studying its vocabulary, grammar, and sentence structure, not by actually reading it. In this approach, lower level learners read only sentences and paragraphs generated by textbook writers and instructors. The reading of authentic materials is limited to the works of great authors and reserved for upper level students who have developed the language skills needed to read them.
The communicative approach to language teaching has given instructors a different understanding of the role of reading in the language classroom and the types of texts that can be used in instruction. When the goal of instruction is communicative competence, everyday materials such as train schedules, newspaper articles, and travel and tourism Web sites become appropriate classroom materials, because reading them is one way communicative competence is developed. Instruction in reading and reading practice thus become essential parts of language teaching at every level.
This approach assumes that students learn to read a language by studying its vocabulary, grammar, and sentence structure, not by actually reading it. In this approach, lower level learners read only sentences and paragraphs generated by textbook writers and instructors. The reading of authentic materials is limited to the works of great authors and reserved for upper level students who have developed the language skills needed to read them.
The communicative approach to language teaching has given instructors a different understanding of the role of reading in the language classroom and the types of texts that can be used in instruction. When the goal of instruction is communicative competence, everyday materials such as train schedules, newspaper articles, and travel and tourism Web sites become appropriate classroom materials, because reading them is one way communicative competence is developed. Instruction in reading and reading practice thus become essential parts of language teaching at every level.
Reading Purpose and Reading Comprehension
Reading is an
activity with a purpose. A person may read in order to gain information or
verify existing knowledge, or in order to critique a writer's ideas or writing
style. A person may also read for enjoyment, or to enhance knowledge of the
language being read. The purpose(s) for reading guide the reader's selection of
texts.
The purpose for reading also determines the appropriate approach to reading comprehension. A person who needs to know whether she can afford to eat at a particular restaurant needs to comprehend the pricing information provided on the menu, but does not need to recognize the name of every appetizer listed. A person reading poetry for enjoyment needs to recognize the words the poet uses and the ways they are put together, but does not need to identify main idea and supporting details. However, a person using a scientific article to support an opinion needs to know the vocabulary that is used, understand the facts and cause-effect sequences that are presented, and recognize ideas that are presented as hypotheses and givens.
Reading research shows that good readers
The purpose for reading also determines the appropriate approach to reading comprehension. A person who needs to know whether she can afford to eat at a particular restaurant needs to comprehend the pricing information provided on the menu, but does not need to recognize the name of every appetizer listed. A person reading poetry for enjoyment needs to recognize the words the poet uses and the ways they are put together, but does not need to identify main idea and supporting details. However, a person using a scientific article to support an opinion needs to know the vocabulary that is used, understand the facts and cause-effect sequences that are presented, and recognize ideas that are presented as hypotheses and givens.
Reading research shows that good readers
- Read
extensively
- Integrate
information in the text with existing knowledge
- Have
a flexible reading style, depending on what they are reading
- Are
motivated
- Rely
on different skills interacting: perceptual processing, phonemic
processing, recall
- Read
for a purpose; reading serves a function
Reading as a Process
Reading is an
interactive process that goes on between the reader and the text, resulting in
comprehension. The text presents letters, words, sentences, and paragraphs that
encode meaning. The reader uses knowledge, skills, and strategies to determine
what that meaning is.
Reader knowledge, skills, and strategies include
Reader knowledge, skills, and strategies include
- Linguistic
competence: the ability to recognize the elements of the writing system;
knowledge of vocabulary; knowledge of how words are structured into
sentences
- Discourse
competence: knowledge of discourse markers and how they connect parts of
the text to one another
- Sociolinguistic
competence: knowledge about different types of texts and their usual
structure and content
- Strategic
competence: the ability to use top-down strategies (see Strategies
for Developing Reading Skillsfor descriptions), as well as knowledge
of the language (a bottom-up strategy)
The
purpose(s) for reading and the type of text determine the specific knowledge,
skills, and strategies that readers need to apply to achieve comprehension.
Reading comprehension is thus much more than decoding. Reading comprehension
results when the reader knows which skills and strategies are appropriate for the
type of text, and understands how to apply them to accomplish the reading
purpose.
credit : http://www.nclrc.org/essentials/reading/reindex.htm
credit : http://www.nclrc.org/essentials/reading/reindex.htm
การสอนทักษะอ่าน
การอ่านภาษาอังกฤษ มี 2 ลักษณะ คือ
การอ่านออกเสียง (Reading aloud) และ
การอ่านในใจ (Silent Reading ) การอ่านออกเสียงเป็นการอ่านเพื่อฝึกความถูกต้อง
(Accuracy) และความคล่องแคล่ว ( Fluency) ในการออกเสียง ส่วนการอ่านในใจเป็นการอ่านเพื่อรับรู้และทำความเข้าใจในสิ่งที่อ่านซึ่งเป็นการอ่านอย่างมีจุดมุ่งหมาย
เช่นเดียวกับการฟัง ต่าง กันที่
การฟังใช้การรับรู้จากเสียงที่ได้ยิน
ในขณะที่การอ่านจะใช้การรับรู้จากตัวอักษรที่ผ่านสายตา
ทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเป็นทักษะที่สามารถฝึกฝนให้ผู้เรียนเกิดความชำนาญและ
มีความสามารถเพิ่มพูนขึ้นได้ ด้วยเทคนิควิธีการโดยเฉพาะ
ครูผู้สอนจึงควรมีความรู้และเทคนิคในการสอนทักษะการอ่านให้แก่ผู้เรียนอย่างไรเพื่อให้การอ่านแต่ละลักษณะประสบผลสำเร็จ
1. เทคนิควิธีปฏิบัติ
1.1 การอ่านออกเสียง การฝึกให้ผู้เรียนอ่านออกเสียงได้อย่าง
ถูกต้อง และคล่องแคล่ว ควรฝึกฝนไปตามลำดับ โดยใช้เทคนิควิธีการ ดังนี้
(1) Basic Steps of Teaching (BST) มีเทคนิคขั้นตอนการฝึกต่อเนื่องกันไปดังนี้
- ครูอ่านข้อความทั้งหมด 1 ครั้ง /
นักเรียนฟัง
- ครูอ่านทีละประโยค / นักเรียนทั้งหมดอ่านตาม
- ครูอ่านทีละประโยค /
นักเรียนอ่านตามทีละคน ( อาจข้ามขั้นตอนนี้ได้ ถ้านักเรียนส่วนใหญ่อ่านได้ดีแล้ว)
- นักเรียนอ่านคนละประโยค ให้ต่อเนื่องกันไปจนจบข้อความทั้งหมด
- นักเรียนฝึกอ่านเอง
- สุ่มนักเรียนอ่าน
(2) Reading
for Fluency ( Chain Reading) คือ
เทคนิคการฝึกให้นักเรียนอ่านประโยคคนละประโยคอย่างต่อเนื่องกันไป
เสมือนคนอ่านคนเดียวกัน โดยครูสุ่มเรียกผู้เรียนจากหมายเลขลูกโซ่
เช่น ครูเรียก Chain-number One นักเรียนที่มีหมายเลขลงท้ายด้วย 1,11,21,31,41, 51 จะเป็นผู้อ่านข้อความคนละประโยคต่อเนื่องกันไป
หากสะดุดหรือติดขัดที่ผู้เรียนคนใด ถือว่าโซ่ขาด ต้องเริ่มต้นที่คนแรกใหม่
หรือ เปลี่ยน Chain-number ใหม่
(3) Reading
and Look up คือ เทคนิคการฝึกให้นักเรียนแต่ละคน
อ่านข้อความโดยใช้วิธี อ่านแล้วจำประโยคแล้วเงยหน้าขึ้นพูดประโยคนั้นๆ
อย่างรวดเร็ว คล้ายวิธีอ่านแบบนักข่าว
(4) Speed
Reading คือ เทคนิคการฝึกให้นักเรียนแต่ละคน
อ่านข้อความโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ การอ่านแบบนี้
อาจไม่คำนึงถึงความถูกต้องทุกตัวอักษร แต่ต้องอ่านโดยไม่ข้ามคำ
เป็นการฝึกธรรมชาติในการอ่านเพื่อความคล่องแคล่ว (Fluency) และเป็นการหลีกเลี่ยงการอ่านแบบสะกดทีละคำ
(5) Reading
for Accuracy คือ
การฝึกอ่านที่มุ่งเน้นความถูกต้องชัดเจนในการออกเสียง ทั้งstress /
intonation / cluster / final sounds ให้ตรงตามหลักเกณฑ์ของการออกเสียง
(Pronunciation) โดยอาจนำเทคนิค Speed
Reading มาใช้ในการฝึก
และเพิ่มความถูกต้องชัดเจนในการออกเสียงสิ่งที่ต้องการ
จะเป็นผลให้ผู้เรียนมีความสามารถในการอ่านได้อย่างถูกต้อง (Accuracy) และ คล่องแคล่ว (Fluency)ควบคู่กันไป
1.2 การอ่านในใจ ขั้นตอนการสอนทักษะการอ่าน
มีลักษณะเช่นเดียวกับขั้นตอนการสอนทักษะการฟัง โดยแบ่งเป็น 3 กิจกรรม คือ
กิจกรรมนำเข้าสู่การอ่าน ( Pre-Reading) กิจกรรมระหว่างการอ่าน หรือ ขณะที่สอนอ่าน (While-Reading) กิจกรรมหลังการอ่าน (Post-Reading) แต่ละกิจกรรมอาจใช้เทคนิค ดังนี้
1)
กิจกรรมนำเข้าสู่การอ่าน ( Pre-Reading) การ ที่ผู้เรียนจะอ่านสารได้อย่างเข้าใจ
ควรต้องมีข้อมูลบางส่วนเกี่ยวกับสารที่จะได้อ่าน
โดยครูผู้สอนอาจใช้กิจกรรมนำให้ผู้เรียนได้มีข้อมูลบางส่วนเพื่อช่วยสร้าง
ความเข้าใจในบริบท ก่อนเริ่มต้นอ่านสารที่กำหนดให้ โดยทั่วไป มี 2 ขั้นตอน คือ
- ขั้น Personalization เป็น ขั้นสนทนา โต้ตอบ ระหว่างครู กับผู้เรียน หรือ
ระหว่างผู้เรียนกับผู้เรียน
เพื่อทบทวนความรู้เดิมและเตรียมรับความรู้ใหม่จากการอ่าน
- ขั้น Predicting เป็น ขั้นที่ให้ผู้เรียนคาดเดาเกี่ยวกับเรื่องที่จะอ่าน โดยอาจใช้รูปภาพ
แผนภูมิ หัวเรื่อง ฯลฯ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่จะได้อ่าน แล้วนำสนทนา หรือ
อภิปราย หรือ หาคำตอบเกี่ยวกับภาพนั้น ๆ หรือ อาจฝึกกิจกรรมที่เกี่ยวกับคำศัพท์
เช่น ขีดเส้นใต้ หรือวงกลมล้อมรอบคำศัพท์ในสารที่อ่าน หรือ อ่านคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่จะได้อ่าน
เพื่อให้ผู้เรียนได้ทราบแนวทางว่าจะได้อ่านสารเกี่ยวกับเรื่องใด เป็นการเตรียมตัวล่วงหน้าเกี่ยวกับข้อมูลประกอบการอ่าน
และค้นหาคำตอบที่จะได้จากการอ่านสารนั้นๆ หรือ
ทบทวนคำศัพท์จากความรู้เดิมที่มีอยู่ ซึ่งจะปรากฏในสารที่จะได้อ่าน
โดยอาจใช้วิธีบอกความหมาย หรือทำแบบฝึกหัดเติมคำ ฯลฯ
2)
กิจกรรมระหว่างการอ่าน หรือ
กิจกรรมขณะที่สอนอ่าน ( While-Reading) เป็นกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติในขณะที่อ่านสารนั้น
กิจกรรมนี้มิใช่การทดสอบการอ่าน แต่เป็นการ“ฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ” กิจกรรมระหว่างการอ่านนี้
ควรหลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติทักษะอื่นๆ
เช่น การฟัง หรือ การเขียน อาจจัดกิจกรรมให้พูดโต้ตอบได้บ้างเล็กน้อย
เนื่องจากจะเป็นการเบี่ยงเบนทักษะที่ต้องการฝึกไปสู่ทักษะอื่นโดยมิได้เจตนา
กิจกรรมที่จัดให้ในขณะฝึกอ่าน ควรเป็นประเภทต่อไปนี้
- Matching คือ อ่านแล้วจับคู่คำศัพท์ กับ คำจำกัดความ หรือ จับคู่ประโยค
เนื้อเรื่องกับภาพ แผนภูมิ
- Ordering คือ อ่านแล้วเรียงภาพ แผนภูมิ ตามเนื้อเรื่องที่อ่าน หรือ เรียงประโยค (Sentences) ตามลำดับเรื่อง หรือเรียงเนื้อหาแต่ละตอน (Paragraph) ตามลำดับของเนื้อเรื่อง
- Completing คือ
อ่านแล้วเติมคำ สำนวน ประโยค ข้อความ ลงในภาพ
แผนภูมิ ตาราง ฯลฯ ตามเรื่องที่อ่าน
Teaching Reading Lesson Plan
doc. http://v3.gushare.com/file.php?file=d4bf2f6af43ac41648f533f0c0be7646
ppt. http://v3.gushare.com/file.php?file=207e0ddd1f6e86344902f7d4cc9c3115
doc. http://v3.gushare.com/file.php?file=d4bf2f6af43ac41648f533f0c0be7646
ppt. http://v3.gushare.com/file.php?file=207e0ddd1f6e86344902f7d4cc9c3115
Example of practice teaching reading skill video
Pre- Reading skill
While- Reading skill
Post- Reading skill
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น